วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

จากเด็กติดรถส่งของสู่บัณฑิตรามและวิทยากร





( จากเด็กติดรถส่งของสู่บัณฑิตรามและวิทยากร )

ชีวิตพี่บูมเองครับพี่หวังว่าคงจะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆอีกหลายคนนะครับ

สวัสดีครับ ผมชื่อบูม ณ ตอนนี้ผมเป็นบัณฑิต ม.ราม แล้วครับและก็เป็นแอดมินเพจนี้รวมทั้งเป็นติวเตอร์จิตอาสาประจำกลุ่มนี้ด้วยครับ แต่กว่าผมจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้เส้นทางการเดินทางของผมมันไม่ได้สวยงามเหมือนดั่งในรูปที่ถ่ายออกมา ผมผ่านอะไรมาบ้าง มันเยอะมากๆครับ ทั้งล้มเหลว ทั้งเคยร้องไห้ ทั้งเคยครอบครัวแตกแยกเพราะผม ทั้งเคยต้องทํางานแบกหามช่วยครอบครัว เพื่อการเรียนของผม

แต่เดิมแล้วนั้นผมเรียนในคณะนิติศาสตร์ครับ และโรงเรียนมัธยมผมก็จบ ม.ปลาย จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า ผมไม่ได้เป็นเด็กหัวดีเลยครับ จะเรียกได้ว่าเป็นคนโง่เลยก็ว่าได้เรียนในแต่ล่ะเทอมของ ม.ปลายได้เกรดไม่ถึง 2.50 แต่ผมก็จบมาได้จนมาถึงตอนที่จะเข้ามหาลัย ผมก็มาเรียนที่ ม.รามคําแหง แห่งนี้ครับ คณะที่ผมเรียน คือ นิติศาสตร์ ไม่ใช่ว่าผมเลือกมาเรียนเองน่ะ แต่เป็นเพราะครอบครัวบังคับให้ผมเรียนครับ ผมจึงต้องเรียนคณะนี้อย่างบอบชํ้าและไม่ค่อยจะเป็นตัวเอง เทอมแรกของคณะนี้เหมือนจะดีน่ะครับ ผมสอบผ่านในวิชาทั่วไปในหลายๆเล่ม ซึ่งผมก็ดีใจ แต่พอในเทอมต่อๆมา มันไม่ได้เป็นดั่งฝัน ผมตกเกือบจะทุกวิชาในแต่ล่ะเทอมครับ และวิชาที่ผมตกส่วนใหญ่ก็เป็นกฏหมายแทบทั้งสิ้น ลงไป 8 เล่ม ผ่านแค่ 1 ถึง 2 เล่ม ผมท้อมากๆครับ แต่ผมก็ยังเรียนต่อไปจนถึงปีที่ 3 จนตัวผมคิดได้ว่าสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เรารักมันไม่ใช่กฏหมาย แต่เป็นรัฐศาสตร์ ผมจึงไปบอกกับครอบครัวครับ ผลออกมา คือ เสียงด่า เสียงดูถูกจากครอบครัว ว่า เรียนมาตั้ง 3 ปี แล้ว ทําไมต้องย้ายคณะ จนผมกับครอบครัวนั้นทะเลาะกันรุนแรงจนบ้านแทบแตก แต่สุดท้ายครอบครัวก็ยอมให้ผมย้ายคณะ และก็เหมือนกับผมต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่สําหรับสิ่งที่ผมคิดนั้นมันไม่ใช่การนับหนึ่งแต่เป็นการเดินถอยหลังจากทางที่เราหลงเดินผิดทางเพื่อมาตั้งหลักและก็เดินไปในเส้นทางใหม่ที่ผมมองว่ามันคือ เป้าหมายของผม 

หลังจากผมย้ายคณะมาเรียนคณะรัฐศาสตร์แล้ว ผมไม่ได้เรียนอย่างเดียวแต่ผมต้องทํางานด้วย และงานที่ผมทํามันก็ไม่ได้ดีเลิศอะไรเลย ไปเป็นเด็กติดรถเค้า แบกของ ส่งของ ซึ่งผมต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อมาขึ้นของที่คลังสินค้าและกว่าจะถึงรอบรถออกส่งนั้นก็กินเวลาไปถึง 10 โมง ส่งของเสร็จเหนื่อยๆเหงื่อเต็มตัว ไม่ใช่ว่าผมจะกลับบ้านน่ะครับแต่ผมต้องรีบนั่งรถมาเรียนที่ ม.ราม อีก ผมลงทะเบียนในแต่ล่ะเทอมเต็มทุกวิชาครับ เข้าเรียนก็ 2 - 3 วิชาต่อสัปดาห์ แต่ผมไม่กลัวครับเวลาว่างจากงานนัันคือ เวลาอ่านหนังสือของผม เทอมแรกผมสอบผ่านหมด พร้อมเกรดงามๆ แต่สิ่งที่สําคัญกว่าการเรียนของผม คือ ผมคิดเสมอว่าวิชาที่ผมเลือกเรียนจะต้องเป็นวิชาที่คนเค้าไม่เรียนกัน นั่นคือ เรียนในวิชาที่ยากๆ เพราะผมคิดเสมอว่า เด็กส่งของอย่างเรา จะต้องเก่งให้ได้ ผมทําแบบนี้ตลอดครับ และที่สําคัญผมไม่ได้แค่ทํางานและเรียน แต่ผมต้องทํางานสังคมด้วย ผมทําทั้ง 3 อย่างนี้ไปพร้อมๆกับการเรียน เวลาว่าง คือ เวลาอ่านหนังสือ วันหยุด คือ วันช่วยสังคม ช่วงบ่ายของสัปดาห์ คือ เวลาที่ผมเรียนหลังเสร็จงาน ผมทํางาน 1 ปี ครึ่ง และผมก็จบจากคณะรัฐศาสตร์ได้ในเวลา 2 ปี ทั้งเรียนด้วย ทํางานด้วย ทํากิจกรรมมหาลัยด้วย และทํากิจกรรมช่วยสังคมด้วย แต่ผมสามารถจบจากคณะที่ผมชอบและเลือกเองได้ในเวลา 2 ปี โดยที่ผมสอบตกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ผมเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จากอดีตที่ผมล้มเหลวในคณะนิติมาถึง 3 ปี แต่ผมสามารถเกิดใหม่และโผบินบนท้องฟ้าในคณะรัฐศาสตร์ด้วยเวลา 2 ปี ผมดีใจมากๆครับ ผมไม่เชื่อเลยว่า จากเด็กส่งของที่คนเค้าดูถูก จะกลายมาเป็นบัณฑิต ม.ราม ได้ ในสายตาของคนอื่นอาจจะมองว่า เรียนจบจากราม มันน่าดีใจตรงใหน ใช่ครับในสายตาคนอื่นเค้ามองอย่างนั้น แต่สําหรับเด็กส่งของอย่างผมที่แทบจะไม่มีเวลาในช่วงที่เรียนจะต้องทําทุกสิ่งทุกอย่าง ถูกสังคมรอบข้างดูถูก ถูกครอบครัวกดดัน ความจนมันบังคับให้ผมต้องดิ้นรน และผมก็ทําได้ครับ วันนี้มันอาจจะเป็นความสําเร็จเล็กๆของใครหลายๆคนที่เค้าดูถูกผม แต่ในหัวใจของผมนั้นมันคือ พลังที่ยิ่งใหญ่ในการดําเนินชีวิตต่อไปในอนาคตครับ

ณ ปัจจุบันพี่เป็นวิทยากรให้กับองค์กรในรามและองค์กรข้างนอกและจัดกิจกรรมติวจิตอาสาให้กับน้องๆ ม.ราม ครับ

สุดท้ายนี้ เพื่อนๆทั้งหลายอย่าท้อน่ะครับ ชีวิตคนเรามันเลือกเกิดไม่ได้แต่เราสามารถที่จะเลือกกําหนดชะตาชีวิตได้ ไม่มีใครหรอกครับที่จะหัวเราะมาตั้งแต่เกิด เพราะว่า ก่อนที่ผมจะหัวเราะได้ ผมก็เคยมีคราบนํ้าตามาแล้วครับ

 "ไม่มีใครหรอกครับที่จะหัวเราะมาตั้งแต่เกิดเพราะว่าก่อนที่ผมจะหัวเราะได้ ผมก็เคยมีคราบนํ้าตามาแล้วครับ" 


( P.Boom ) จากเด็กติดรถส่งของสู่วิทยากร
( ประธานเพจรัฐศาสตร์รามเพื่อนเรียน )

- อดีตพนักงานฝ่ายบุคคล บริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด ( Benz พัฒนาการ )
- วิทยากรให้องค์กรใน ม.ราม
- วิทยากรบรรยายให้กับสถาบันการศึกษาข้างนอก
- เจ้าของเพจประวัติศาสตร์จีน สมาชิก 12,000 คน
- นักกิจกรรมเพื่อสังคม
- ผู้ก่อตั้งเพจรัฐศาสตร์รามเพื่อนเรียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น